ออฟเรคคอร์ด
ตลาดหุ้นแกว่งตัวรอ “จังหวะ” ขึ้น-ลง ทำให้เห็นอาการหุ้นรายตัวออก “ฤทธิ์ออกเดช” ทำราคาขึ้น แบบไม่ทันรู้ตัว และราคาลง แบบตั้งขายกันแทบไม่ทัน
๐๐๐ LPN ไวเกิ๊น
ตลาดหุ้นแกว่งตัวรอ “จังหวะ” ขึ้น-ลง ทำให้เห็นอาการหุ้นรายตัวออก “ฤทธิ์ออกเดช” ทำ ราคาขึ้น แบบไม่ทันรู้ตัว และ ราคาลง แบบตั้งขายกันแทบไม่ทัน
เรียกได้ว่าตลาดหุ้นช่วงนี้ “หาหุ้นก็ยาก” แต่ที่ยากสุด “ทำกำไร” เปิด Gap เยอะยิ่งยากไปอีก…
หุ้น LPN สร้างตำนานความเร็วให้เห็นเป็นที่เรียบร้อยเพราะจู่ๆ วอลุ่มเข้าทะลัก เปิดตลาดช่วงบ่ายยังกับปล่อยน้ำใต้เขื่อนทำเอาน้ำทะลักบ้านยังไงยังงั้น
เรียกว่าแรงจัดของจริงเพราะพาราคาหุ้นวิ่งไป แตะราคาสูงสุด 4.84 บาท ตั้งแต่เปิดตลาดช่วงบ่าย จากที่ราคาที่นิ่งๆ 4.20 บาทไร้ทั้งวอลุ่ม และกระแสข่าวตลอดช่วงเช้า
พอบทจะไปก็ไปแบบปุ๊บปั๊บบวกไป 15.23% แบบแทบจะกะพริบตา-ลุกเข้าห้องน้ำกันไม่ได้เลยทีเดียว เพราะกลับมาเดี๋ยวจะพลาด !!
ประเด็นพอจะจับต้องได้โยนให้ตัวเลข “กำไรไตรมาส 3 /65 ” ออกมา 235 ล้านบาท บวกไปเกือบ 90 % อานิสงส์ยอดขายทะลักทั้งบ้านยันสำนักงาน
ดูจากรายการซื้อขายพอข่าวออกหุ้นวิ่ง สั่งออเดอร์ซื้อ และพร้อม สั่งออเดอร์ตั้งขาย จบรอบสั้นมาก
๐๐๐
จังหวะหุ้นเริ่มพักฐาน หลังผลประชุม FED ออกมาตามคาดคือ 0.75 % แต่ที่นักลงทุนให้น้ำหนักอยู่ที่การออกมาส่ง “สัญญาณปลายเปิด” ถึงความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่จะพิจารณาผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
น้ำหนักการประชุม รอบเดือนธ.ค. นัดสุดท้ายของปี เป็นไปได้ทั้งขึ้นดอกเบี้ย 0.5 % และ 0.75 % สะท้อนจาก Fed Watch Tool น้ำหนักดอกเบี้ย FED จะสูงสุดที่ 5-5.25 % ในการประชุมเดือนมี.ค. 66 จากเดิม 4.75-5 %
๐๐๐
ส่วน หุ้นไทย ยังครองความแข็งแกร่งเพราะลงไม่มาก อาการคือ แกว่งรอจนรีบาวด์ช่วงบ่ายสำเร็จ จากดัชนีปิด 1,625.62 จุด เพิ่มขึ้น 0.60 จุด เปลี่ยนแปลง 0.04 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52,199.78 ล้านบาท
๐๐๐
รอบนี้ หุ้นในพอร์ตต่างชาติ สลับวันขึ้นนำ และหนุนตลาดหุ้นต่อเนื่อง ทั้ง PTTEP ราคาบวกต่อเนื่องตามทิศทางคาดการณ์กำไรโตต่อไตรมาส 4 ปี 2565 แบบปิดตัวเลขสวยๆ ราคามาปิด 188 บาทเพิ่มขึ้น 0.80% หรือ KBANK ราคาปิด 149.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.70 %
๐๐๐
ด้าน หุ้นท่องเที่ยวที่แรลลี่แบบยกกลุ่ม เริ่มมีอาการรินขายออกมาหลัง กระแสข่าว “จีน” จะ “ยกเลิก” นโยบาย Zero Covid19 ไม่ชัดเจนจนล่าสุด คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ระบุ ยังคงยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์
AOT ปิดย่อไป 74.50 บาท ลดลง 0.33 % และ AAV ได้แตะนิวไฮในรอบนี้ย่อลงมาปิด 3.18 บาท ลดลง 1.24 % ราคาหุ้นลงๆ “ไม่แรง – ไม่ขายแบบแพนิก” เพราะรอบนี้การท่องเที่ยวไทยเทียบปี 64 ฟื้นแรงทุกเดือนแต่เลือกหุ้น และจังหวะเข้าให้ถูกเท่านั้น
๐๐๐
บรรยากาศหุ้นรีบาวด์ช่วงบ่ายเลยทำให้นักลงทุน “กล้าเข้า – กล้าเสี่ยง” บรรดา หุ้นไอพีโอ ที่เปิดตัวด้วยราคาต่ำจองเคสล่าสุด BTG เปิดต่ำกว่าไอพีโอ และยังลงไปปิดต่ำสุดของวัน 36.25 บาท ท่ามกลาง ออเดอร์ สั่งขายท้ายตลาดหุ้น 16 ล้านหุ้น ทำเอาเป็นงง !! ใครทำกำไรแล้วเทขายขนาดนี้
ราคามาปิด 37.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.45 % ทำเอานักลงทุนยิ่งมั่นใจว่าเมื่อ “ราคาไม่พ้นจอง” 40.00 บาท “เข้าเร็วออกเร็ว” ไว้เลย ส่วนรุ่นพี่ TLI กลับมาเหนือจองอีกครั้งปิด 16.30 บาทเพิ่มขึ้น 1.88 % ต้องใช้เวลา 4 เดือนกว่าจะมีวันนี้
๐๐๐
หุ้นใหม่ไอพีโอ เตรียมให้นักลงทุนช้อปกันอุตลุดปลายนี้ เห็นต่อคิวเรียงแถวอีกเพียบให้รายย่อยได้ลุ้นแน่นอน เร็วๆ นี้ “เดอะ คลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม” หรือ KLINIQ ขายหุ้นไอพีโอจำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท/หุ้น ในราคาหุ้นละ 24.50 บาท เริ่มทำการซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 7 พ.ย.นี้ นอกจากจะมีจุดหุ้นหนี้น้อย ยังอันพรีเซนเตอร์ซุปตาร์ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นอีกด้วยสร้างกระแสเพิ่มไปอีก
๐๐๐
หลังจาก SABUY ประกาศซื้อหุ้น AIT เพิ่มขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 21.1% มูลค่า 500 ล้านบาท และยังเพิ่ม ส่งบริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้น “เลิฟ ลิสซิ่ง” 100% ยักษ์ใหญ่ลีสซิ่งต่างจังหวัดมีธุรกิจ จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยวิธีผ่อนชำระ ลงทุนเยอะขนาดนี้ และแตกไลน์ธุรกิจไม่น้อยราคาหุ้นขยับรับข่าวปิด 13.50 เพิ่มขึ้น 0.75 %